ในปัจจุบันนี้นอกจากการตรวจเลือดแล้ว เรายังสามารถใช้น้ำลายและปัสสาวะตรวจหาเชื้อเอดส์ได้ครับ(เป็นวิธีที่สะดวกครับ บริษัทประกันชีวิตนิยมใช้กัน) ในการตรวจเลือด น้ำลาย หรือปัสสาวะนั้น จะทำการตรวจหาแอนติบอดี้ซึ่งเป็นโปรตีนที่สามารถทำปฏิกิริยากับHIV(แอนติบอดี้ไม่เป็นอันตรายครับ เพราะมันไม่ใช่เชื้อ เป็นเพียงโปรตีนที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อเจ้าHIVแค่นั้นเองครับ) และถึงแม้เราจะตรวจหาแอนติบอดี้ในน้ำลายและปัสสาวะได้ แต่น้ำลายและปัสสาวะก็นำเชื้อได้น้อยมากๆถึงไม่ได้เลย เพราะมีปริมาณเชื้อHIVน้อยมากหรือไม่มีเลย
เพื่อนๆรู้กันหรือเปล่าครับว่า การที่จะติดเชื้เอดส์จากคนที่มีเชื้ออยู่แล้วนั้น ไม่ได้ติดกันง่ายหรือยากจนเกินไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง เช่น ปริมาณเชื้อ ภูมิต้านทานของผู้สัมผัสเชื้อ และปัจจัยอื่นๆที่ยังไม่ทราบแน่ชัด(รู้หรือเปล่าครับว่าการมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ติดเชื้อ1ครั้ง มีโอกาสที่จะติดเชื้อเอดส์ได้ร้อยละ1ถึง0.1หรือโอกาสที่ถูกเข็มเปื้อนเลือดHIVตำ1ครั้ง มีโอกาสติดเอดส์ได้ร้อยละ0.3หรือลูกที่เกิดจากแม่ที่ติดเชื้อเอดส์มีโอกาสติดเอดส์จากแม่ได้ร้อยละ20-30 เป็นต้น)
ปัจจุบันชุดทดสอบเอดส์มีความไวสูงมากสามารถตวรจพบแอนติบอดี้ได้ภายใน4-6สัปดาห์หลังสัมผัสเชื้อ หลายคนคงเคยได้ยินการตรวจเอดส์โดยตรวจDNAหรือสายพันธุกรรมของHIVโดยอาศัยปฏิกิริยาลูกโซ่(Polymerase Chain ReactionหรือวิธีPCR)โดยมีความไวสูงมาก สามารถตรวจพอHIVได้หลังจากสัมผัสเชื้อ1-2สัปดาห การตรวจแบบนี้มีวิธีค่อนข้างยาก มีไม่กี่โรงพยาบาลที่ตรวจหาได้และมีราคาแพง ถ้าตรวจเจอต้องตรวจซ้ำเพื่ิอยืนยันผล และถ้าไม่เจอก็ต้องรอตรวจแอนติบอดี้เมื่อครบ3เดือนอยู่ดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น