เรามาร่วมปลุกจิตสำนึกป้องกันโรคเอดส์กันเถอะครับเพื่อตัวเรา คนที่เรารัก และสังคมไทยของเราจะได้ห่างไกลจากโรคเอดส์ โรคร้ายที่ยังไม่มีทางรักษาหายขาดได้ เพื่อจะได้ช่วยกันป้องกันไว้ก่อนที่จะสายไป ด้วยวิธีง่ายๆที่ไม่ควรมองข้าม ที่คุณครูสอนกันมาตั้งแต่ประถมกันแล้วหละครับ ชายน้อยว่าเรากลับไปทวนกันหน่อยก็ดีนะครับ งั้นเริ่มกันเลยนะครับ
1.หากรู้ตัวว่าจะมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น กิ๊ก กุ๊ก กั๊ก หรือใคร ตัวอะไรก็แล้วแต่นะครับ ห้ามลืมเด็ดขาด พี่ถุงยางอนามัย การ์ดป้องกันตัวเราจากเจ้าวายร้ายHIVครับ อย่าลืมสวมหรือให้คู่นอนของเราสวมอย่างถูกวิธีทุกครั้งก่อนมีเพศสัมพันธ์ นี่ต่างหากละครับสวรรค์ที่แท้จริง มีความสุขอย่างไร้ความกังวลที่ใครๆก็สามารถมีได้
2.ห้ามใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่นโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆก็ตาม (โดยเฉพาะกลุ่มผู้เสพยาเสพติดโดยวิธีฉีดที่อาจมีผู้ติด
เชื้อเอดส์ร่วมอยู่ด้วย) เพราะเข็มที่ผ่านการใช้มาแล้วอาจยังคงมีเลือดหรือเชื้อโรคตกค้างอยู่ และเมื่อเรานำมาฉีด เชื้อโรคก็จะเข้าในร่างกายเราได้โดยตรง ไม่จำกัดว่าต้องแค่เฉพาะเชื้อHIVนะครับ แต่หากรวมไปถึงโรคติดต่อทางเลือดและเชื้อโรคอื่นๆด้วยนะครับ อันตรายมากเลยนะครับ ในกรณีการใช้เข็มฉีดยาร่วมกันนี้ในกลุ่มผู้เสพยาที่มีผู้ติดเชื้อเอดส์ มีสถิติการตายเป็นอันดับต้นๆของผู้ติดเชื้อเอดส์ทั้งหมดทุกกรณีเลยนะครับ
3.ก่อนแต่งงานหรือมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกกับคนที่เราไว้วางใจ ควรพากันไปตรวจเลือดก่อนดีกว่านะครับ โดยเฉพาะวัยรุ่น อย่าใจร้อนเกินไปนะครับ เราไม่สามารถรู้ได้ทุกอย่าง ว่าคู่นอนของเราผ่านอะไรมาบ้าง และถ้าหากตรวจไม่เจออย่าเพิ่งนิ่งนอนใจโดยเด็ดขาด ควรรออีก3เดือนแล้วไปตรวจใหม่นะครับ จึงจะปลอดภัย กันไว้ดีกว่ามาเยียวยากันทีหลังนะครับ ชายน้อยเข้าใจว่าความใคร่ในช่วงนี้มันรุนแรง แต่ถ้าเราใจร้อนวู่วามเกินไป มันจะได้ไม่คุ้มเสียเอานะครับ คิดถึงทุกคนที่รักเราให้มากๆ (เคยเจอมาเยอะครับ จากกลุ่มผู้ติดเชื้อที่เป็นวัยรุ่น เจอกรณีเดียวกันเกือบทุกราย)
4.ความซื่อสัตย์ต่อกันของสามี-ภรรยาเป็นเรื่องสำคัญมากนะครับ โดยเฉพาะเรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นที่ไม่ใช่คู่ของตนเอง การตรวจเลือดก่อนแต่งงานหรือมีลูกจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆที่เราควรตระหนักอย่างยิ่ง เพราะการที่ปล่อยให้มีลูกทั้งๆที่ตัวพ่อหรือแม่มีเชื้อเอดส์ นับว่าเป็นการทำร้ายชีวิตน้อยๆที่เพิ่งเกิดมาอย่างโหดร้ายมาก ก่อให้เกิดปัญหากับสังคมตามมา เพราะยังถือว่าเด็กที่ติดเชื้อเอดส์ที่ยังมีชีวิตอยู่ ยังต้องเติบโตไปเป็นเยาวชนที่ยังไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม มีข้อจำกัดในการใช้ชีวิตหลายๆอย่าง ทำให้มีผลต่อสภาพจิตใจของตัวเด็กเอง รวมไปถึงยังมีหน่วยงานหรือมูลนิธิให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนต่างๆที่ยังให้ความสำคัญในเรื่องนี้น้อยอยู่
5.หากรู้ว่าตัวเองติดเชื้อ ควรพบบุคลากรทางการแพทย์ทันที เพื่อขอรับยาต้านไวรัสและการวางแผนครอบครัว รวมทั้งวิธีดูแลสุขภาพที่ถูกต้อง และที่สำคัญอย่าลืมสวมหรือให้คู่นอนของเราสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์นะครับ (รักและห่วงใยมากๆจากผู้เขียนบล็อกนี้)
6.หากติดเชื้อเอดส์ ห้ามบริจาคเลือดหรืออวัยวะเด็ดขาด เพราะเชื้อที่อยู่ในตัวเรา อาจแพร่ไปทำร้ายผู้อื่นที่เขาไม่รู้เรื่องด้วย เป็น
การฆ่าคนบริสุทธิ์อย่างทารุนเลยนะครับ
7.หากตั้งครรภ์ ต้องไปฝากครรภ์และถือโอกาสตรวจหาเชื้อเอดส์ทีเดียวเลยนะครับ เพื่อความปลอดภัยทั้งแม่และเด็ก อย่างน้อย ก็สามารถทำให้เราป้องกันและวางแผนได้ทันท่วงที
8.ไม่ควรบริจาคเลือดเพราะเพียงแค่อยากรู้ว่าติดเอดส์หรือไม่ เพราะการตรวจเลือดในครั้งแรกยังไม่สามารถบ่งบอกได้แน่ชัดเพราะอาจยังตรวจไม่เจอ ทั้งๆที่มีเชื้อเอดส์อยู่แล้ว เพราะต้องรออย่างน้อยอีก 3 เดือน(เฉพาะคนที่ไม่แน่ใจว่าติดเชื้อหรือไม่นะครับ ส่วนคนที่มีเชื้อก็ควรงดบริจาค ส่วนคนที่ไม่มีเชื้อก็เชิญอิ่มบุญให้เต็มที่เลยครับ ชายน้อยขอร่วมอนุโมทนาด้วยครับ 555)
9.เราไม่ควรสัมผัสเลือดของคนอื่นโดยตรงนะครับ ไม่ว่าเป็นกรณีใดๆ ชายน้อยอยากให้หาวิธีป้องกันเอาไว้มากๆเลยนะครั
บเพื่อสุขภาพของเรา เพราะเราไม่อาจรู้ได้ว่าเลือดนั้นมีเชื้อโรคอะไรแฝงอยู่บ้าง ควรสวมถุงมือยางหรือใช้พลาสติกหุ้มมือทุกครั้งนะครับ เพื่อสุขอนามัยที่ดีจะทำให้เราปลอดโรค เพราะความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐที่สุดในโลกเลยนะครับ
เอาหละครับ เดินทางมาถึงตอนท้ายแล้ว ชายน้อยอยากให้เราทุกคนทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีป้องกันข้างต้นกันให้เข้าใจถ่องแท้เลยนะครับ เพื่อตัวเรา คนที่เรารัก เป็นวิธีง่ายมากที่เราจะใส่ใจปฏิบัติ ป้องกันเอาไว้ก่อนนะครับดีกว่าจะมาเสียใจทีหลัง ก่อนจากกันไปขอฝากคำขวัญเด็กๆ เพื่อเตือนใจเราๆกันสักนิดนะครับ "ขับรถระวังชน ซุกซนระวังเอดส์" "สวมถุงยางเพื่อชีวิต ก่อนคิดมีเพศสัมพันธ์"
คนไทยจะได้ห่างไกลจากโรคเอดส์ครับ
